ขนม กะละแม หรือ กาละแม
ขนมกะละแม หรือ กาละแมเป็นขนมไทยที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน การทำขนมกาละแมในสมัยก่อนนิยมทำกันในงานบุญพิธีต่าง ๆ เช่น งานปีใหม่ ทอดกฐิน หรือสงกรานต์ และงานอื่น ๆ อีกมาก โดยใช้น้ำตาลเหลวเรียกว่าน้ำตาลโตนด ใส่กะทิ ใส่แป้ง เมื่อก่อนใช้โม่กับมือที่เรียกว่า “ครกบด” เคี่ยวน้ำตาล ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงจนเป็นยวงเหนียวข้นได้ที่ เมื่อก่อนกาละแมจะตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมบรรจุถุงขายต่อมาได้มีการปรับปรุงใช้น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลปี๊บทำเป็นกาละแมสีขาว และเปลี่ยนรูปแบบจากการตัดเป็นชิ้นๆ มาห่อพลาสติกเป็นรูปทรง “พีรามิด” และได้มีการเปลี่ยนชื่อจาก “ยาหนม”มาเป็น “กาละแม”เพื่อให้ฟังดูไพเราะขึ้น
ยังไม่ทราบว่ากะละแมมีที่มาจากขนมหวานของชาติใด บางท่านกล่าวว่ามาจากขนมกาลาเม็กของฝรั่งเศส หรือคาราเมลของอังกฤษ หรือเกละไมของชาวมลายู พุทธทาสภิกขุตั้งข้อเสนอว่าน่าจะมาจากขนมฮูละวะของอินเดียที่มีส่วนผสมเป็นนม แป้ง และน้ำตาล
กะละแมมี 2 ชนิด แบ่งตามวิธีการกวนคือ
- กะละแมเม็ด (ดั้งเดิม) กะละแมแบบนี้สีเข้ม ขนมอาจจะมีลักษณะเป็นจุดๆแทรกอยู่- กะละแมแป้ง แต่ใส่แป้งข้าวเหนียวแทนเม็ดข้าวเหนียว กะละแมที่กวนขายในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นกะละแมแป้งเพราะทำง่ายกว่า
เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขนมกาละแม
1. แป้งข้าวเหนียว2. น้ำตาลทราย
3. น้ำกะทิ
4. ตอก
5. เชือก
6. กะทะ
7. ไม้พายขนม
8. กะละมัง
9. ตะแกรง
ขันตอนการทำขนมกาละแม
1. ตำกาบมะพร้าวที่เผาไว้ให้แหลกใส่น้ำลงไป 1 ถ้วยตวงคนให้น้ำสีดำออกแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำสีดำทำจากกาบมะพร้าว2. ผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งถั่วเขียว เข้าด้วยกันในกระทะทอง ใส่น้ำสีดำ นวดแป้งให้เนียนผสมน้ำตาลทรายหัวกะทิคนให้เข้ากัน
3. ยกส่วนทั้งหมดตั้งไฟอ่อนๆ กวนแป้งให้เหนียวและล่อนออกจากกระทะจึงยกลง
4. เตรียมถาดสำหรับใส่ขนมทาน้ำมันพืชให้ทั่วเทขนมที่กวนไว้ลงในถาดเกลี่ยให้ เรียงเสมอกัน แล้วพักไว้ให้เย็นจึงตัดเป็นชั้นสี่เหลี่ยม ตามต้องการ