ไข่หงส์ เดิมชื่อขนมไข่เหี้ย
ที่มา
ขนมนี้มีตำนานเล่าต่อๆ กันว่าเป็นขนมที่เจ้าจอมแว่น (หรือสมัญญาที่พระเจ้าลูกยาเธอและพระเจ้าลูกเธอ เรียกว่า คุณเสือ) พระสนมเอกในรัชกาลที่ 1 คิดทำขึ้นถวายพระองค์ เพราะครั้งหนึ่งทรงพระประสงค์จะเสวยไข่เหี้ย แต่ระยะนั้นไข่เหี้ยหายาก เจ้าจอมแว่นจึงประดิษฐ์ขนมไข่เหี้ยขึ้นถวายแทน ในสมัยก่อนขนมนี้ยังใช้ในพิธีขันหมากหรือติดกัณฑ์เทศน์ด้วย ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เห็นว่าชื่อขนมไม่ไพเราะจึงเปลี่ยนเป็นขนมไข่หงส์ ทำให้ลักษณะของขนมเปลี่ยนไปด้วย จากที่เคยฟองใหญ่ คล้ายไข่เป็ด เนื้อแป้งหนา กลายเป็นฟองกลมๆเล็กๆ แป้งบางลงขนมที่คล้ายขนมไข่เหี้ยคือขนมฟองแลน รูปร่างคล้ายไข่ ใช้แป้งข้าวเหนียวผสมกับแป้งข้าวเจ้า นวดผสมกับฟักทอง แล้วนำไปหุ้มไส้ที่ทำจากถั่วเขียวนึ่งผัดกับหอม พริกไทยและเกลือ เสร็จแล้วนำไปทอด เคลือบด้วยน้ำตาลมะพร้าวเคี่ยวกับกะทิ อีกชนิดหนึ่งคือขนมไข่นกกระสา ไส้เหมือนขนมไข่เหี้ย แต่หุ้มด้วยสาคูแล้วนำไปนึ่ง
ส่วนผสมขนมไข่หงส์
ส่วนผสมไส้ขนมไข่หงส์
น้ำมัน 1/3 ถ้วยตวงหัวหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย 1 ช้อนชา
รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
ถั่วเขียวนึ่งบด 3 ถ้วยตวง
ส่วนผสมแป้งขนมไข่หงส์
น้ำปูนใส 3/4 ถ้วยตวงฟักทองนึ่งบด 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเหนียว 3 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1 1/2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันสำหรับทอด 1 ขวด
น้ำตาลฉาบ
น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำ 1/4 ถ้วยตวง
วิธีทำขนมไข่หงส์
ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน นวดกับฟักทองแล้วค่อย ๆ ใส่น้ำปูนใส กะทิ นวดจนเข้ากัน และเนื้อเนียน ปั้นเป็นก้อนกลมขนาด 1 นิ้ววิธีทำไส้ขนมไข่หงส์
1. โขลกรากผักชี หัวหอม พริกไทย ให้ละเอียด ใส่น้ำมันในกระทะ เจียวเครื่องที่โขลกให้เหลือง ใส่ถั่วลงผัดปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือให้เข้ากัน ผัดจนแห้ง ปั้นใส้เป็นก้อนกลมเล็กกว่าแป้งนิดหน่อยพักไว้
2. แผ่แป้ง หยิบไส้ใส่หุ้มแป้งให้มิดไส้ คลึงเป็นรูปรีหรือกลม นำไปทอดในน้ำมันร้อนจัด พอเหลืองตักขึ้น
3. ผสมน้ำตาลทรายน้ำ ตั้งไฟเคี่ยวให้เป็นยางข้น ใส่ขนมที่ทอดไว้ลงคลุกจนน้ำตาลจับขนม ตักขึ้นผึ่งให้น้ำตาลแห้งเป็นเกล็ดขาว พักให้เย็นเก็บใส่ภาชนะมีฝาปิด